กอล์ฟเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมทั่วโลก และมีเมืองหลายแห่งที่เป็น ศูนย์กลางของกอล์ฟระดับโลก ไม่เพียงแต่มีสนามกอล์ฟที่โดดเด่น แต่ยังมี วัฒนธรรมกอล์ฟที่แข็งแกร่ง และเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับนักกอล์ฟจากทั่วทุกมุมโลก บทความนี้จะแนะนำ 5 เมืองที่เป็นศูนย์กลางกอล์ฟของโลก พร้อมข้อมูลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการเล่นและการเดินทางไปยังเมืองเหล่านี้
- St Andrews, สกอตแลนด์ – ตำนานแห่งกอล์ฟ
สนามกอล์ฟที่มีชื่อเสียง
- St Andrews Links – เป็นสนามกอล์ฟที่เก่าแก่ที่สุดในโลก และถูกขนานนามว่าเป็น “บ้านของกอล์ฟ”
- Kingsbarns Golf Links – สนามที่มีวิวทะเลสวยงามและเป็นเจ้าภาพรายการแข่งขันระดับโลก
วัฒนธรรมกอล์ฟ
- St Andrews เป็นที่ตั้งของ The Royal and Ancient Golf Club องค์กรที่มีบทบาทสำคัญในการกำหนดกฎกติกาของกอล์ฟทั่วโลก
- เมืองนี้มีพิพิธภัณฑ์กอล์ฟที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติของกอล์ฟอย่างละเอียด
ค่าใช้จ่ายและการเดินทาง
- ค่ากรีนฟีที่ St Andrews Old Course เริ่มต้นที่ ประมาณ $300 ต่อรอบ
- สามารถเดินทางโดยเครื่องบินไปยัง Edinburgh Airport แล้วขับรถต่อประมาณ 1 ชั่วโมง
- Scottsdale, สหรัฐอเมริกา – ศูนย์กลางกอล์ฟในทะเลทราย
สนามกอล์ฟที่มีชื่อเสียง
- TPC Scottsdale – สนามที่ใช้แข่งขัน PGA Tour รายการ Waste Management Phoenix Open
- Troon North Golf Club – สนามที่มีทัศนียภาพอันงดงามของทะเลทรายแอริโซนา
วัฒนธรรมกอล์ฟ
- มีสนามกอล์ฟระดับรีสอร์ทหลายแห่งที่เปิดให้นักท่องเที่ยวมาใช้บริการ
- เป็นเมืองที่มีการพัฒนาสนามกอล์ฟมากมาย และเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักกอล์ฟมือสมัครเล่น
ค่าใช้จ่ายและการเดินทาง
- ค่ากรีนฟีที่ TPC Scottsdale อยู่ที่ $200 – $500 ต่อรอบ ขึ้นอยู่กับฤดูกาล
- มีสนามบินนานาชาติ Phoenix Sky Harbor Airport ที่สามารถเดินทางไปยัง Scottsdale ได้สะดวก
- Palm Springs, สหรัฐอเมริกา – เมืองแห่งรีสอร์ทกอล์ฟ
สนามกอล์ฟที่มีชื่อเสียง
- PGA West – หนึ่งในสนามที่เป็นเจ้าภาพของรายการ PGA Tour
- Indian Wells Golf Resort – สนามที่มีภูมิทัศน์อันงดงามในหุบเขา Coachella
วัฒนธรรมกอล์ฟ
- เป็นเมืองที่มีนักกอล์ฟจากทั่วโลกเดินทางมาเพื่อพักผ่อนและเล่นกอล์ฟ
- มีอากาศที่เหมาะสมสำหรับการเล่นกอล์ฟตลอดทั้งปี
ค่าใช้จ่ายและการเดินทาง
- ค่ากรีนฟีที่สนามกอล์ฟใน Palm Springs มีราคาเริ่มต้นที่ $150 – $300 ต่อรอบ
- สามารถเดินทางโดยเครื่องบินไปยัง Palm Springs International Airport ได้โดยตรงจากหลายเมืองใหญ่
- Melbourne, ออสเตรเลีย – เมืองแห่ง Sandbelt Courses
สนามกอล์ฟที่มีชื่อเสียง
- Royal Melbourne Golf Club – สนามอันดับหนึ่งของออสเตรเลียและติดอันดับโลก
- Kingston Heath Golf Club – สนามที่ใช้จัดการแข่งขันระดับนานาชาติหลายรายการ
วัฒนธรรมกอล์ฟ
- Melbourne เป็นที่รู้จักในชื่อ “Sandbelt” เพราะมีสนามกอล์ฟที่มีพื้นทรายธรรมชาติที่เหมาะสมกับการเล่นกอล์ฟ
- เป็นเมืองที่ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพของ Presidents Cup และรายการใหญ่ของ PGA Tour
ค่าใช้จ่ายและการเดินทาง
- ค่ากรีนฟีที่ Royal Melbourne อยู่ที่ $300 – $600 ต่อรอบ
- สามารถเดินทางโดยเครื่องบินไปยัง Melbourne International Airport และเดินทางไปสนามกอล์ฟได้สะดวก
- Dubai, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ – กอล์ฟระดับโลกในเมืองแห่งอนาคต
สนามกอล์ฟที่มีชื่อเสียง
- Emirates Golf Club – สนามที่ใช้จัดการแข่งขัน Dubai Desert Classic
- Jumeirah Golf Estates – สนามที่มีการออกแบบอย่างหรูหราและทันสมัย
วัฒนธรรมกอล์ฟ
- Dubai เป็นเมืองที่มีการลงทุนในสนามกอล์ฟระดับโลก พร้อมบริการที่หรูหรา
- เป็นที่นิยมในหมู่นักกอล์ฟระดับโปรและนักท่องเที่ยวที่ต้องการประสบการณ์กอล์ฟที่ไม่เหมือนใคร
ค่าใช้จ่ายและการเดินทาง
- ค่ากรีนฟีที่ Emirates Golf Club อยู่ที่ $250 – $400 ต่อรอบ
- สามารถเดินทางโดยเครื่องบินไปยัง Dubai International Airport ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเดินทางระดับโลก
หากคุณเป็นนักกอล์ฟที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์กอล์ฟระดับโลก เมืองเหล่านี้คือ จุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาด แต่ละเมืองมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน ตั้งแต่ St Andrews ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ไปจนถึง Dubai ที่ให้ความรู้สึกหรูหราและทันสมัย
ไม่ว่าคุณจะเลือกเมืองใด คุณจะได้รับประสบการณ์กอล์ฟที่น่าประทับใจ และสามารถเรียนรู้วัฒนธรรมกอล์ฟของแต่ละสถานที่ได้อย่างเต็มที่
แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม:
- PGA Tour: https://www.pgatour.com/
- Golf Digest: https://www.golfdigest.com/
- Golf.com: https://www.golf.com/